การเติบโตของอุตสาหกรรมการขายเหล็ก

อุตสาหกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศไทยก็คือ อุตสาหกรรมเหล็ก เนื่องจากการขายเหล็กมีความจำเป็นต่อการผลิตอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่มีส่วนสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจในหลายประเทศ อาทิเช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมก่อสร้าง เป็นต้น เพราะฉะนั้นทิศทางของอุตสาหกรรมเหล่านี้ จึงมีผลต่อความต้องการโดยตรงในการใช้เหล็กในประเทศ

ประเทศไทยมีตลาดขายเหล็กที่มีศักยภาพที่ค่อนข้างสูง ซึ่งเกิดจากความต้องการใช้เหล็กในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นตามการเติบโตของอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอื่นๆ ซึ่งกำลังจะทำให้ประเทศกลายเป็นจุดศูนย์กลางในการผลิตยานยนต์เพื่อส่งออกไปยังตลาดโลก

การบริโภคเหล็กสำเร็จรูปโดยแบ่งตามอุตสาหกรรม แม้ในประเทศจะมีความต้องการในการใช้เหล็กที่สูง แต่ด้วยข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต การขาดกระบวนการผลิตเหล็กต้นน้ำ เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้ประเทศไทยต้องนำเข้าเหล็กในปริมาณสูง โดยเฉพาะเหล็กที่มีคุณภาพสูงซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่สูงตาม เพื่อรักษาคุณภาพและมาตรฐานในการผลิต เช่น เหล็กลวด เหล็กเพลาดำ เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนสำหรับรีดเย็นต่อ เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหล็กที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยจะต้องมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลี เป็นต้น

การเติบโตของตลาดขายเหล็กในภาคเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เศรษฐกิจของประเทศไทยได้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งในภาคของอุตสาหกรรมการผลิต ภาคอสังหาริมทรัพย์ ภาคการก่อสร้าง และภาคบริการ ส่งผลให้มีความต้องการใช้เหล็กในประเทศเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหล็กเส้นที่ใช้สำหรับการก่อสร้าง และเหล็กแผ่นประเภทต่างๆ ที่ใช้ในกลุ่มของวงการด้านอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น ทำให้ต้องมีการนำเข้าเหล็กประเภทต่างๆ เพื่อมาใช้ภายในประเทศ อย่างเช่น เหล็ก Billet เหล็ก Slab เศษเหล็ก หรือผลิตภัณฑ์เหล็กประเภท แผ่นเคลือบ แผ่นรีดร้อนและรีดเย็น และอื่นๆ ปัจจุบันโรงงานอุตสาหกรรมผลิตเหล็กแผ่นในประเทศหลายรายได้มีการขยายกำลังในการผลิตเพื่อที่จะรองรับแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น

ปัจจุบันประเทศไทยถูกจัดว่าเป็นผู้นำเข้าและขายเหล็กสุทธิ ซึ่งถือว่าเป็นรายใหญ่ที่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก แต่ยังตามหลังประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาอยู่ เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ที่สุดในขณะนี้ ด้วยศักยภาพทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศไทย ส่งผลทำให้ปัจจุบันประเทศไทยกลายเป็นตลาดเป้าหมายของประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีและประเทศอื่นๆ ก็ตาม เนื่องจากมีปริมาณความต้องการที่จะใช้เหล็กที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันนั้น การผลิตกลับไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการได้ ประเทศไทยจึงจำเป็นต้องมีการนำเข้าและขายเหล็กจากต่างประเทศ ดังนั้นตลาดเหล็กในประเทศจึงมีภาวะการผันผวนไปตามตลาดเหล็กโลกทั้งในปริมาณและราคาที่ถูกปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการเหล็กของโลก https://smksteel.com/