heater สำหรับงานอุตสาหกรรมทุกประเภท

heater เป็นกระบวนการที่พลังงานไฟฟ้า จะถูกเปลี่ยนเป็น พลังงานงานความร้อน การใช้งาน heater ความร้อน ทั่วไปนั้นรวมถึง เครื่องทำความร้อน การปรุงอาหาร น้ำร้อน การทำให้ร้อน การเพิ่มอุณหภูมิ และ กระบวนการที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม เครื่องทำความร้อนไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ ไฟฟ้าที่ แปลงพลังงานไฟฟ้าเป็นความร้อน ส่วนประกอบความร้อนภายใน heater เครื่องทำความร้อนไฟฟ้า ทุกชนิด ประกอบเป็นความสำพันธ์ ระหว่างความต้านทาน และพลังงานไฟฟ้า และ ทำงานบนหลักการ ของความร้อน (หน่วยเป็นจูล)แรงดันไฟฟ้าไฟฟ้าที่(หน่วยเป็นโวลต์) ผ่าน ตัวต้านทาน(หน่วยเป็นโอมห์) แปลงพลังงานไฟฟ้า เป็นพลังงาน ความร้อน ลวดทำความร้อน(ตัวต้านทาน)แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือลวดความร้อนที่มีส่วนประกอบจากเหล็ก เรียกลวดชนิดเหล็ก คุณสมบัติใช้ กับงานให้ความร้อนทั่วไปอุณหภูมิมีให้เลือกงาน ตั้งแต่ 500C-1425C อีกชนิดเราเรียกว่า ลวดนิเกิล คุณสมบัติทนกรดและด่างได้ดีกว่าลวดแบบเหล็ก อุณหภูมิใช้งานไม่สูงมากนัก ตั้งแต่ 500C-1100C การเลือกใช้งานลวดความร้อนควรคำนึง อุณหภูมิการใช้งาน ผู้ผลิต ลักษณะการใช้งาน เป็นต้น

heater เทอร์โมคับเบิล คือ เป็นกระบวนการที่เปลี่ยนพลังงานความร้อน เป็นพลังงานไฟฟ้า ทำจากโลหะ 2 ชนิด(ชนิดPและชนิดN)โลหะชนิดต่างกันนำมาเชื่อมปลายติดกัน ซึ่งเป็นจุดวัดทดสอบอุณหภูมิ ส่วนความยาวของเทอร์โมคับเบิลสามารถกำหนดโดยผู้ใช้งาน ฮีตเตอร์ เทอร์โมคับเบิล สามารถแบ่งตามอุณหภูมิใช้งาน เช่นชนิด R,S,K,J เป็นต้น ส่วนประกอบของเทอร์โมคับเบิลหลักๆ คือ ส่วนกระโหลกเทอร์โมคับเบิล ส่วนตัวของเทอร์โมคับเบิล(เซรามิก หรือ สแตนเลส) ส่วนของสายต่อสัญญาณสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสม

heater เซรามิกคือ เซรามิกมีสมบัติเปราะ และค่าความต้านทานแรงดึง (tensile strength) ก็จะแตกต่าง กันมากกล่าวคือ มีค่าตั้งแต่ต่ำกว่า 100 psi (0.69 MPa) จนถึงค่าสูงประมาณ 106 psi (7 x 103 MPa) อาทิเช่น Al2O3 ที่ถูกเตรียมในสภาวะที่ควบถูกคุมอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้แล้ว วัสดุเซรามิกยังมีค่า ความต้านทานแรงอัด(compressive strength) แตกต่างกับค่าความต้านทานแรงดึงอย่างมากกล่าวคือ มีค่าสูงกว่า ความต้านทานแรงดึง ประมาณ 5 – 10 เท่า อย่างไรก็ตามก็มีวัสดุเซรามิกบางชนิดที่มีความอ่อนง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงรูป ร่าง เช่น plasticized clay เนื่องจากพันธะระหว่างชั้นเป็นพันธะแบบอ่อน เนื่องจากเซรามิกมีความแข็งมาก ทำให้เราสามารถนำเอาวัสดุเซรามิกมาใช้เป็นวัสดุสำหรับ ขัดสี (abrasive materials) เพื่อตัด บด และขัดถูวัสดุอื่นที่มีความแข็งน้อยกว่า เซรามิกเหล่านี้ ได้แก่อลูมิเนียมออกไชด์ (aluminum oxide) และซิลิคอนคาร์ไบด์ (silicon carbide)