วิธีการเลือกเก้าอี้ออฟฟิศที่มีราคาไม่เกิน 3,000 บาท

บางคนอาจจะคิดว่า เก้าอี้ทำงานที่ราคาไม่เกิน 3,000 บาท แบบไหนก็เหมือนกันหรือเปล่า ? แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลยเพราะแต่ละแบรนด์ก็มีการออกแบบที่ต่างกัน แต่ถ้าหากคุณได้อ่านวิธีการเลือกซื้อที่ได้นำเสนอในบทความนี้ คุณก็จะสามารถซื้อเก้าอี้ในราคาย่อมเยาแต่คุณภาพดีได้ เพียงแค่เลือกดูจากปัจจัยด้านล่างที่ควรพิจารณาในการเลือกเก้าอี้ดังต่อไปนี้

อันดับแรก คือ ต้องตรวจสอบขนาดก่อน
สิ่งแรกที่ต้องคำนึงคือ ขนาดของเก้าอี้ทำงาน เพราะโดยปกติแล้วจะมีขนาดใหญ่กว่าเก้าอี้ทั่วไป ดังนั้นหากคุณนำเก้าอี้ไปวางไว้ในบ้านของคุณ อาจจะทำให้รู้สึกมีขนาดใหญ่เกินไป เราจึงอยากแนะนำประเด็นที่คุณอาจจะมองข้ามไปตอนที่เลือกซื้อเก้าอี้ออฟฟิศ

ความสมดุลระหว่างห้องและโต๊ะทำงานเป็นสิ่งสำคัญ
เนื่องจากเก้าอี้ทำงานนั้นถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายและการนั่งเป็นเวลานาน จึงมีผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบฟังก์ชันเพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น มีล้อสำหรับเคลื่อนที่, มีที่รองคอตรงพนักเก้าอี้ ซึ่งทำให้เก้าอี้มีขนาดใหญ่และใช้พื้นที่ในการวางมากขึ้น หากนำไปวางไว้ในสำนักงานก็ดูเหมาะสมดี แต่ถ้านำมาใช้ในบ้านหรือห้องอ่านหนังสืออาจจะทำให้คุณรู้สึกคับแคบ อึดอัดขึ้นมาได้ ดังนั้น หากคุณเลือกเก้าอี้ที่มีขนาดใหญ่และนั่งสบาย ก็ควรคำนึงถึงพื้นที่ใช้งานและโต๊ะทำงานของคุณด้วย

ที่วางแขนสามารถสอดเข้าไปใต้โต๊ะได้หรือไม่
โดยปกติเวลาเลือกซื้อเก้าอี้ เรามักจะคำนึงถึงเพียงแค่ขนาดของตัวเก้าอี้ จนทำให้มองข้ามเรื่องล้อและที่วางแขนที่ไม่สมดุลกับโต๊ะทำงานไป เมื่อใช้งานเก้าอี้ที่มีลักษณะดังกล่าวทำให้จำเป็นต้องเก็บเก้าอี้ไว้ข้างหน้าโต๊ะทำงานแทน เพราะไม่สามารถสอดเก้าอี้เก็บใต้โต๊ะได้ นอกจากนี้หากที่บ้านของคุณมีเด็กเล็ก อาจจะทำให้ได้รับบาดเจ็บจากการสะดุดล้มได้
ดังนั้น ก่อนที่จะเลือกซื้อเก้าอี้ คุณควรจะวัดขนาดความกว้าง, ยาว, สูงของโต๊ะก่อน รวมทั้งคำนึงถึงโต๊ะที่มีลิ้นชักด้วย เพื่อป้องกันปัญหาการสอดเก้าอี้เก็บแล้วติดลิ้นชัก

ฟังก์ชันการปรับความสูงเพื่อป้องกันอาการปวดหลังและปวดไหล่
ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะรับประทานอาหาร ระยะห่างระหว่างความสูงของโต๊ะและเก้าอี้นั้น ควรคำนึงตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกซื้อ ซึ่งระยะห่างระหว่างความสูงของโต๊ะและเก้าอี้ที่ดีควรอยู่ที่ 27-30 ซม. หากระยะห่างไม่มีความสมดุล อาจทำให้เกิดอาการปวดไหล่และระบบไหลเวียนของเลือดที่เท้าไม่ดีได้
แต่ทั้งนี้ก็สามารถกล่าวได้อีกว่า ระยะห่างระหว่างเก้าอี้กับโต๊ะนั้นยังมีรายละเอียดอื่น ๆ อีกมาก อย่างเช่น ตอนที่ทำงาน หรือเขียนหนังสือ ก็มีระยะห่างที่เหมาะสมแตกต่างกันไป หากนั่งผิดท่าเป็นเวลานาน ก็อาจจะทำให้เกิดอาหารปวดหลัง, ปวดไหล่, ปวดสะโพกขึ้นมาได้ ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้คุณเลือกซื้อเก้าอี้ที่มีตัวปรับระดับความสูงได้จะดีกว่า
ตรวจสอบลักษณะของเก้าอี้ที่นั่งสบาย
ขั้นตอนต่อไปคือ การเลือกเก้าอี้ที่นั่งสบาย โดยเราจะขอแนะนำอย่างละเอียด เนื่องจากว่าการซื้อเก้าอี้ออนไลน์นั้นไม่สามารถทดลองนั่งจริงได้ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบคำอธิบายของสินค้าว่าเป็นเก้าอี้ที่มีลักษณะเหล่านี้หรือไม่ รวมถึงรีวิวจากผู้ใช้จริงด้วย

พนักพิงเก้าอี้มีลักษณะแบบ S-Curve
กระดูกสันหลังของคนเรามีลักษณะเป็นรูปตัว S เพื่อรองรับน้ำหนักของศีรษะ ดังนั้นลักษณะเก้าอี้ที่ดีคือ ต้องเป็นลักษณะแบบ S-Curve เพื่อช่วยรองรับแผ่นหลังอย่างเป็นธรรมชาติ
เก้าอี้บางตัวที่ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์อาจจะมีราคาที่สูงเกินไป ดังนั้นจึงอาจจะหาซื้อไม่ได้ในงบ 3,000 บาท อย่างไรก็ตาม มีบางผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะของพนักพิงเป็นแบบ S-Curve และมีราคาที่ย่อมเยา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตรงตามหลักสรีรศาสตร์ทั้งหมด แต่ก็สามารถช่วยรองรับแผ่นหลังได้เหมือนกัน ซึ่งดีกว่าการนั่งเก้าอี้แบบธรรมดาอย่างแน่นอน

ความหนาของเบาะนั่งและการรับแรงกด
เบาะนั่งก็เป็นอีกจุดสำคัญที่ควรคำนึงถึง เก้าอี้ที่มีเบาะรองนั่งที่มีความหนาที่เหมาะสมและมีความยืดหยุ่นที่พอดีก็จะทำให้ไม่รู้สึกปวดเอว ส่วนเก้าอี้ที่มีเบาะที่นิ่มเกินไป เมื่อนั่งแล้วในตอนแรกอาจจะรู้สึกสบาย แต่เมื่อเวลาผ่านไปสะโพกของคุณจะจมลงไปในเบาะส่งผลให้กระดูกเชิงกรานผิดรูป และจะเกิดอาการปวดเอวตามมา เราจึงไม่แนะนำเก้าอี้ที่มีลักษณะดังกล่าว นอกจากนี้ เก้าอี้ที่มีเบาะนั่งที่มีความหนาและแข็งอย่างเหมาะสม จะสามารถใช้งานได้นานกว่าเก้าอี้ที่มีเบาะนิ่มเกินไปอีกด้วย

เลือกเก้าอี้ที่ไม่กดหลังเข่า
เรามาดูข้อควรระวังของช่วงขาขณะนั่งเก้าอี้กันบ้าง เมื่อเรานั่งบนเก้าอี้ เท้าควรจะวางถึงพื้นอย่างเป็นธรรมชาติตามหลักสรีรศาสตร์ นอกจากเรื่องปัญหาความสูงของเก้าอี้แล้ว ลักษณะของเบาะนั่งก็มีความสำคัญเช่นกัน
หากขอบด้านหน้าของเบาะเก้าอี้มีลักษณะบวมหนาขึ้นมา ส่วนนี้จะไปกดที่หลังเข่า ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการขาบวมได้ ในทางกลับกัน ถ้าเบาะนั่งมีลักษณะลาดเอียงอย่างเหมาะสม ไม่มีการกดที่หลังเข่า ก็จะทำให้คุณนั่งเก้าอี้ได้อย่างสะดวกสบายไม่ปวดขา

พิจารณาความสูงของพนักพิง
ถึงแม้ว่าจะเป็นเก้าอี้ประเภทเดียวกัน แต่เมื่อใช้งาน ระดับความสูงของพนักพิงหลังก็อาจจะให้ความรู้สึกสบายที่แตกต่างกัน หากมีบางช่วงของการทำงานที่ต้องการพิงศีรษะเพื่อพักผ่อนหรือคิดงาน การเลือกใช้เก้าอี้ที่มีพนักพิงหลังสูงถึงช่วงคอจะเหมาะสมกว่า แต่เก้าอี้ที่มีพนักพิงสูงก็จะทำให้รู้สึกอึดอัดได้ ดังนั้น เราจึงขอแนะนำให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม

รูปลักษณ์และการดูแลวัสดุที่แตกต่างกัน
เก้าอี้ทำงานส่วนใหญ่จะผลิตจากหนังเทียมหรือผ้า เพราะหนังเทียมมีข้อดีตรงที่มีราคาที่ไม่แพงและทำความสะอาดได้ง่าย เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด แต่เมื่อนั่งเป็นเวลานานจะรู้สึกร้อนอบอ้าว ไม่สบายตัว ส่วนเก้าอี้ที่ผลิตจากผ้าก็จะให้ความรู้สึกสบาย เพราะมีตาข่ายที่ช่วยระบายอากาศ แต่มีข้อเสียคือ กันน้ำไม่ได้ และทำความสะอาดค่อนข้างยาก
และสำหรับเก้าอี้ที่ผลิตจากหนังแท้ จะให้ความรู้สึกหรูหรา ให้ความรู้สึกที่ดีเมื่อสัมผัสกับผิว แต่อาจจะมีราคาที่สูงเกินงบประมาณ 3,000 บาท และควรระวังเมื่อซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ เพราะถึงแม้ร้านค้าจะบอกว่าเป็นเก้าอี้หนัง แต่ก็ไม่สามารถเชื่อถือได้ 100% ดังนั้นควรตรวจสอบให้ดีว่าเป็น “หนังแท้” หรือ “หนังเทียม” ก่อนตัดสินใจซื้อ

ตรวจสอบว่ามีฟังก์ชันสำหรับการเอนหลังเพื่อการผ่อนคลาย
จริง ๆ แล้วเก้าอี้ที่สามารถเอนหลังได้ก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเลือกซื้อ ถึงแม้ว่าควรจะเลือกเก้าอี้ที่สะดวกสบายต่อการนั่งทำงานเป็นหลัก แต่จะดีแค่ไหน ถ้าเก้าอี้ที่คุณนั่งสามารถปรับพนักพิงให้เอนไปทางด้านหลังเพื่อการผ่อนคลายได้ด้วย

เมื่อพูดถึงเก้าอี้ที่เอนหลังได้ คุณอาจจะนึกถึงเก้าอี้โยกที่ใช้สำหรับนั่งพักผ่อน แต่จริง ๆ แล้วเรากำลังพูดถึงเก้าอี้ทำงานที่สามารถปรับพนักพิงให้สามารถเอนหลัง และรองรับแผ่นหลังเมื่อเอนตัวขึ้นลงได้ นอกจากนี้ยังสามารถรองรับการเหยียดตัวเพื่อคลายอาการเมื่อยล้าจากการนั่งทำงานได้อีกด้วย
แต่เก้าอี้ลักษณะนี้ถ้าเป็นคุณผู้ชายอาจจะไม่ต้องออกแรงมากเวลาต้องการเอนหลัง แต่สำหรับคุณผู้หญิงหรือผู้ที่มีรูปร่างเล็กแล้ว อาจจะมีเก้าอี้บางตัวที่ต้องใช้แรงมากกว่าปกติเพื่อเอนหลัง ดังนั้นนอกจากอ่านคำอธิบายวิธีการใช้สินค้าแล้ว เราแนะนำให้คุณลองอ่านรีวิวเพื่อประกอบการตัดสินใจด้วยนะคะ